ไขคำถาม ทำไมจิงโจ้จึงมีกล้าม เรื่องนี้มีเหตุผลมากมาย
- Sutthilak Keawon
- 27 ก.พ.
- ยาว 1 นาที

จิงโจ้เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงโดดเด่นอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาหลัง และหาง ซึ่งทำให้พวกมันสามารถกระโดดได้ไกลและเร็วมาก วันนี้ The Animals Society จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าทำไมจิงโจ้ถึงมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขนาดนี้ รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันครับ
Key Takeaways
จิงโจ้มีกล้ามเนื้อแข็งแรงจากวิวัฒนาการ โดยเฉพาะที่ขาหลังและหาง
การกระโดดแบบทรงพลังใช้พลังงานน้อยกว่าการเดินแบบสัตว์ทั่วไป
อาหารหลักประกอบด้วยพืชที่มีโปรตีนต่ำแต่มีระบบย่อยที่มีประสิทธิภาพสูง
กล้ามเนื้อของจิงโจ้มีความสามารถในการเก็บและปล่อยพลังงานที่พิเศษ
กลไกการประหยัดพลังงานของจิงโจ้เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์
ทำไมจิงโจ้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงจนเป็นมีม
จิงโจ้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับสัตว์อื่นๆ ในขนาดเดียวกัน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาหลังและหางที่พัฒนาขึ้นจากการปรับตัวผ่านวิวัฒนาการหลายล้านปี มีปัจจัยหลายด้านที่ส่งผลให้จิงโจ้มีกล้ามเนื้อแข็งแรง ดังนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : Quokka ทำไมหน้ายิ้มตลอดเวลา และพฤติกรรมชอบทิ้งลูก

1. การปรับตัวทางวิวัฒนาการ
จิงโจ้มีการปรับตัวทางวิวัฒนาการที่ทำให้มีกล้ามเนื้อแข็งแรง
การเคลื่อนที่ด้วยการกระโดดเป็นหลัก ทำให้กล้ามเนื้อขาหลังพัฒนาอย่างมาก
วิวัฒนาการเพื่อเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งของออสเตรเลีย
การแข่งขันกันเองในฤดูผสมพันธุ์ ทำให้จิงโจ้ตัวผู้ต้องพัฒนากล้ามเนื้อเพื่อต่อสู้
2. โครงสร้างกล้ามเนื้อพิเศษ
กล้ามเนื้อของจิงโจ้มีลักษณะพิเศษที่ทำให้แข็งแรงกว่าสัตว์ทั่วไป
มีเส้นใยกล้ามเนื้อแบบ Fast-twitch fiber มากกว่า ซึ่งเหมาะกับการเคลื่อนไหวแบบฉับพลัน
กล้ามเนื้อมีความสามารถในการเก็บและปล่อยพลังงานในรูปแบบพลังงานยืดหยุ่น
มีเอ็นและพังผืดพิเศษที่ช่วยในการกระโดดและส่งต่อพลังงาน
3. ระบบเมตาบอลิซึมที่มีประสิทธิภาพ
จิงโจ้มีระบบเผาผลาญพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง
สามารถใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าแม้ในสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง
ย่อยและดูดซึมสารอาหารจากพืชได้ดีกว่าสัตว์กินพืชทั่วไป
มีการปรับตัวให้ใช้พลังงานน้อยในขณะพัก แต่ใช้พลังงานอย่างเต็มที่เมื่อจำเป็น
กลไกการเคลื่อนที่ ที่ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง
การกระโดดของจิงโจ้เป็นกลไกสำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนากล้ามเนื้อ การกระโดดไม่เพียงช่วยให้เคลื่อนที่ได้เร็วแต่ยังมีประสิทธิภาพด้านพลังงานด้วยครับ
รูปแบบการกระโดดที่มีประสิทธิภาพ
จิงโจ้มีรูปแบบการกระโดดที่เป็นเอกลักษณ์:
สามารถกระโดดไกลถึง 9 เมตรในการกระโดดเพียงครั้งเดียว
วิ่งได้เร็วถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ประหยัดพลังงานมากกว่าการเดินแบบสัตว์ทั่วไป
ใช้หางเป็นเสมือนขาที่สามในการทรงตัวและส่งแรง
กลไกการเก็บและปล่อยพลังงาน
กล้ามเนื้อและเอ็นของจิงโจ้ทำงานคล้ายสปริง:
เอ็นร้อยหวายในขาหลังช่วยเก็บพลังงานจากการลงพื้นในการกระโดดแต่ละครั้ง
ปล่อยพลังงานนี้ออกมาเมื่อกระโดดอีกครั้ง ทำให้ประหยัดพลังงานถึง 30%
ระบบนี้ทำให้จิงโจ้สามารถกระโดดได้ต่อเนื่องโดยใช้พลังงานน้อย
นักวิทยาศาสตร์เรียกกลไกนี้ว่า "Elastic Energy Storage System"

เปรียบเทียบกล้ามเนื้อจิงโจ้กับสัตว์อื่น ถือว่าแข็งแรงแค่ไหน
เมื่อเทียบกับสัตว์ชนิดอื่น จิงโจ้มีความแตกต่างที่น่าสนใจในแง่โครงสร้างและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อครับ
จิงโจ้ vs สัตว์ที่วิ่งเร็ว
เปรียบเทียบกับสัตว์ที่วิ่งเร็วอื่นๆ:
เสือชีตาห์วิ่งได้เร็วกว่า (100 กม./ชม.) แต่วิ่งได้ในระยะสั้นและใช้พลังงานมากกว่า
จิงโจ้ใช้พลังงานน้อยกว่าม้าที่วิ่งด้วยความเร็วเท่ากัน
จิงโจ้สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงได้นานกว่าสัตว์วิ่งเร็วส่วนใหญ่
มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูงกว่าสัตว์วิ่งเร็วอื่นๆ
ความแตกต่างของกล้ามเนื้อ
ลักษณะเฉพาะของกล้ามเนื้อจิงโจ้
มีอัตราส่วนกล้ามเนื้อต่อน้ำหนักตัวสูงกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นในขนาดเดียวกัน
มีความหนาแน่นของไมโอโกลบิน (Myoglobin) สูง ทำให้กล้ามเนื้อมีออกซิเจนมาก
กล้ามเนื้อมีความสามารถในการทนต่อกรดแลคติกสูงกว่า ทำให้เมื่อยช้ายากกว่า
มีเส้นใยกล้ามเนื้อชนิดความเร็วสูง (Fast-twitch) มากกว่าสัตว์ทั่วไป

ชีวิตประจำวันของจิงโจ้ที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อ
การใช้ชีวิตประจำวันของจิงโจ้เปรียบเสมือนการออกกำลังกายตลอดเวลา ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อของพวกมันแข็งแรงและทรงพลัง
การเคลื่อนที่ในธรรมชาติ
จิงโจ้มีการเคลื่อนที่เป็นระยะทางไกลในแต่ละวัน:
เคลื่อนที่เฉลี่ย 10-15 กิโลเมตรต่อวันเพื่อหาอาหารและน้ำ
การกระโดดต่อเนื่องหลายพันครั้งต่อวันเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง
ต้องปีนป่ายภูมิประเทศที่ขรุขระในออสเตรเลีย
มีการต่อสู้และแข่งขันในกลุ่มจิงโจ้ตัวผู้
พฤติกรรมทางสังคม
พฤติกรรมทางสังคมของจิงโจ้ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ:
การต่อสู้ระหว่างตัวผู้ด้วยการชกและเตะ
การเล่นและไล่วิ่งกันในกลุ่มจิงโจ้วัยเด็ก
การเดินทางเป็นฝูงซึ่งต้องใช้พลังงานในการเคลื่อนที่ต่อเนื่อง
การระวังภัยจากผู้ล่า ทำให้ต้องพร้อมวิ่งหนีตลอดเวลา
การพักผ่อนและการอนุรักษ์พลังงาน
จิงโจ้รู้จักพักผ่อนและอนุรักษ์พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ:
พักในช่วงที่อากาศร้อนจัดเพื่อประหยัดพลังงาน
เคลื่อนไหวช้าๆ และใช้พลังงานน้อยเมื่อไม่จำเป็น
การเก็บน้ำและพลังงานไว้ในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถลดอัตราการเผาผลาญพลังงานเมื่อขาดแคลนอาหาร
สรุป
จิงโจ้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงอันเนื่องมาจากการปรับตัวทางวิวัฒนาการหลายล้านปี โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาหลังและหางที่ใช้ในการกระโดด ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่หลักของพวกมัน แม้จะกินพืชเป็นอาหารหลักซึ่งมีโปรตีนไม่สูงนัก แต่จิงโจ้มีระบบย่อยอาหารที่มีประสิทธิภาพสูงและการเผาผลาญที่ปรับตัวเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากอาหารที่กินครับ
คุณสามารถช่วยเหลือสัตว์น้อยทั้งหลายผ่านการบริจาคให้มูลนิธิโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง โดย The Animals Society เป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ หากต้องการบริจาคสามารถตรวจสอบมูลนิธิที่ท่านอาจสนใจที่นี่
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
Australian Museum https://australian.museum/learn/animals/mammals/kangaroos-and-wallabies/
Commonwealth Scientific and Industrial Research Organisation (CSIRO) https://www.csiro.au/en/research/animals/livestock/kangaroos
National Geographic https://www.nationalgeographic.com/animals/mammals/facts/kangaroos
University of New South Wales - Kangaroo Locomotion Research https://www.unsw.edu.au/research/kangaroo-locomotion
Journal of Experimental Biology https://jeb.biologists.org/content/kangaroo-biomechanics
Comments